| โลกพระพุทธศาสนาในยุคโลกาภิวัฒน์
ถ้าหากในปัจจุบันมีการพูดถึงพระพุทธศาสนาในยุคโลกาภิวัฒน์ก็จะพูดกันในทั้งด้านบวกและด้านลบ
ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าตกใจที่ทำให้น่าคิดว่าเหตุใดกันศาสนาที่เก่าแก่จึงมีข่าวด้านลบทุกวันในหน้าจอโทรทัศน์
อันเป็นข่าวด้านลบที่สร้างความเสื่อมถอยให้แก่พุทธศาสนาและกระแสเหล่านั้นล้วนตีกลับมาในสังคมยุคปัจจุบันว่าคุณมองศาสนาพุทธเป็นอะไรกันแน่
ทั้งสถานที่จำหน่ายเครื่องรางของขลัง มีการคอรัปชั่นโกงกิน
เสพมั่วเมาอบายมุขต่างๆนานามากมาย
พระพุทธศาสนาในยุคโลกาภิวัฒน์
เป็นประเด็นศึกษาที่จะกล่าวถึงการปรับตัวให้เข้ากับโลกสมัยใหม่
จะเห็นได้ว่าในโลกปัจจุบันกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมีเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
สมาร์ทโฟน เฟสบุ๊ค และเครือการติดต่อโลกไร้พรมแดนอีกมากมาย
มีหลายสิ่งได้อุบัติขึ้นโดยที่ในสมัยพุทธกาลไม่มี ทำให้กลายเป็นประเด็นที่ว่า
พระพุทธศาสนาควรปรับตัวอย่างไร ในสภาวะที่ศาสนาเกิดความเสื่อมถอยทั้งจากตัวกลางทางศาสนาคือ
พระภิกษุสงฆ์ และหลักคำสอนที่ถูกมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว
รวมถึงวัดเองก็ถูกจัดให้เป็นสถานที่จำหน่ายเครื่องรางของขลัง
ซึ่งดูท่าแล้วศาสนาพุทธอาจต้องปรับตัวทั้งการฟื้นฟูสาระสำคัญของศาสนาพุทธและการปฏิวัติสงฆ์เสียใหม่ดั้งนี้
การฟื้นฟูสาระสำคัญของพระพุทธศาสนา
คือหลักคำสอนเกี่ยวกับโลกกุตรธรรมที่ชี้ให้เห็นว่าการนิพพานไม่ใช่เรื่องไกลตัวเกินหวัง
แต่หากอยู่ในภาวะที่มนุษย์สามารถเข้าถึงได้ในชาตินี้และควรมีการฟื้นฟูมิติทางสังคมโดยพระไตรปิฎก
โดยพระสงฆ์มีบทบาทสำคัญต่อการนำมิติทางสังคมกลับคืนสู้พระพุทธศาสนา
พระสงฆ์ควรกระทำตนเป็นสื่อกลางให้ประชาชนหันมาให้ความสำคัญกับสังคมแบบพุทธมากขึ้น
พุทธศาสนาไม่ใช่มีแค่ธรรมเท่านั้นแต่ยังมีส่วนที่เป็นพระธรรมวินัย การนำพระธรรมวินัยกลับสู่พุทธศาสนานั้นมีความสำคัญถือเป็นการแสดงให้เห็นว่าพุทธศาสนาไม่ได้เน้นแต่หลักคำสอนที่เป็นการปฏิบัติเฉพาะตัวเท่านั้นแต่เป็นการให้ความสำคัญกับการจัดสรรกับสภาพทางสังคมเพราะสาระสำคัญของพระวินัยคือการจัดโครงสร้าง
วางระบบแบบแผนของชุมชนหรือสังคมเพื่อให้มนุษย์อยู่รวมกันโดยที่ความเป็นอยู่และความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
ด้วยการฟื้นฟูมิติทางสังคมประไตรปิฎก
แต่ไม่ใช่แค่การชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างธรรมกับฐานะสังคมไทย
พระสงฆ์มีหน้าที่แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมโดยตรง ทั้งการศึกษาธรรมหรือพระธรรมวินัยอันประกอบด้วยแบบแผนชุมชนสงฆ์เพื่อให้ดูมีความดีงาม
และอีกทางคือกระบวนการสงฆ์คือ
การทำให้พระพุทธศาสนากลับมามีมิติทางสังคมมากขึ้นในแนวคิด“ธรรมิกสังคมนิยม”เป็นการมองเห็นแนวทางสองด้าน ด้านหนึ่งคือ การมองเห็นในฐานะหลักธรรมความจริงที่เป็นกฏธรรมชาติ(สัจจธรรม)และอีกด้านคือการมองเห็นในเชิงจริยธรรมที่เน้นเรื่องคุณธรรมและความรับผิดชอบต่อสังคม
สาเหตุที่ต้องมองแบบนี้เพราะเนื่องจากพระพุทธศาสนาในยุคโลกาภิวัฒน์ถูกละเลยเรื่องดังกล่าวทำให้ขาดจิตสำนึกในเรื่องจิตสาธารณชน
รวมถึงการจัดระเบียบสงฆ์คือบัตรพระหรือสมาร์ทการ์ดพระ
เป็นแนวทางในการแก้ไข้ “มาร’’ ในคาบผ้าเหลือง ซึ่งเป็นมาตรการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช)
ที่นำมาแก้ไขปัญหาพระสงฆ์ เนื่องจากที่ผ่านมาวงการพระสงฆ์ไทยเกิดปัญหามาโดยตลอด
อาทิเช่น พระปลอม พระต่างด้าว และการหนีคดีมาบวช
บัตรพระอาจจะช่วยตรวจสอบสถานะพระได้โดยถือว่าเป็นหนทางหนึ่งที่สามารถทำให้ตัวกลางทางศาสนามีความบริสุทธ์มากขึ้นปราศจากมารทางศาสนา
เป็นการหนุนให้ใช้เทคโนโลยีมาดูแลสงฆ์
ในยุคโลกาภิวัฒน์ที่มีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีไปอย่างก้าวหน้า
เราก็นำสิ่งเหล่านี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการปฏิรูปวงการสงฆ์ อย่าให้พระธรรมวินัยวิปริต
เทคโนโลยีเมื่อนำมาใช้ในทางที่ดีก็เกิดสิ่งดีเมื่อนำมาใช้ในทางที่ไม่ดีก็เกิดสิ่งเลวร้ายได้เช่นกันเราไม่ควรมองเทคโนโลยีด้วยสายตาที่ไร้เดียงสาจนเกินไปมีหลายคนหลงคิดว่าเทคโนโลยีล้วนเป็นเพียงเครื่องมือหรือTools ที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเพื่อการใช้งานแต่ถ้าเรามองให้ลึกซึ้งลงไปก็จะเห็นถึงความสลับซับซ้อนมากกว่านั้นพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่เน้นการพัฒนาตนเองพึ่งตนเองฝึกตนเอง
เทคโนโลยีก็มีแนวโน้มไปอีกด้านหนึ่งคือเอื้ออำนวยความสะดวกในเชิงกายภาพซึ่งอาจทำให้ยึดติดอยู่กับวัตถุขาดวัตถุแล้วเป็นทุกข์ง่ายขึ้นขณะที่ศาสนาเน้นให้มนุษย์กลับไปหารากฐานของตัวเองและพัฒนาจิตใจมากกว่าเรื่องกายภาพหรือการอำนวยความสะดวกเทคโนโลยีในพุทธศาสนาคือ“การภาวนา” ถ้าพุทธบริษัทรู้จักใช้ก็จะขยายไปถึงศีลสมาธิและปัญญาส่วนความหวังที่จะให้เทคโนโลยีแห่งโลกปัจจุบันอย่างเช่นอินเตอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการสอนศาสนานั้นอาจเป็นการเปิดประตูบานแรกเท่านั้นผลเป็นอย่างไรเป็นที่น่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง
ในยุคที่เทคโนโลยีพัฒนาไปทุกก้าวที่เราเดิน
มีการเกิดปัญญาปะดิษฐ์กลายมาเป็นยุคโลกาภิวัฒน์ อาจทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมถอย พระกลายเป็นพ่อค้าค้าขายเครื่องรางของขลังกันในเขตศาสนสถาน
มีการซื้อขายตำแหน่งกันทางศาสนาเพื่อยศฐาบรรดาศักดิ์ก่อเป็นมลทินทางศาสนา
ดังนั้นในโลกที่มีเทคโนโลยีเข้ามามีอิทธิพลต่อบริบทการใช้ชีวิต
พระพุทธศาสนาก็ควรปรับให้เดินไปพร้อมกับการพัฒนาโดยการใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการควบคุมพระสงฆ์
ให้เทคโนโลยีเป็นทาสของศาสนาอย่าให้พระสงฆ์เป็นทาสเทคโนโลยีจนกลายเป็นศาสนาแห่งคาบดำทมิฬ
นี้คงเป็นวาระที่ประชาชนและภาครัฐควรให้ความสำคัญกับศาสนาให้ศาสนากลับมาเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจดั้งเดิม
บทความเรื่อง"พลวัตของศาสนาในยุคโลกาภิวัตน์"โดย พระไพศาล วิสาโล เผยแพร่ในเว็บไซต์
บทความ"พุทธศาสนาในยุคโลกาภิวัตน์ รู้ความหมายแต่ยังไม่ได้คำตอบ" โดยประชาไทย เผยแพร่ในเว็บไซต์
บทความเรื่อง"การบริหารการเผยแผ่พุทธศาสนาในยุคโลกาภิวัตน์ของมหาเถรสมาคม" โดย พระมหานงค์ อับไพ เผยแพร่ในเว็บไซต์
บทความเรื่อง"พระพุทธศาสนายุค ICT " โดย Nawaratks เผยแพร่ในเว็บไซต์
บทความเรื่อง"พระพุทธศาสนากับโลกาภิวัตน์" โดย Soraj เผยแพร่ในเว็บไซต์
บทความเรื่อง"ศาสนากับยุคโลกาภิวัฒน์ " โดยลูกศิษฐ์ วัดญาณเวศกวัน เผยแพร่ในเว็บไซต์
บทความเรื่อง"พระพุทธศาสนาในยุคโลกาภิวัฒน์ (กึ่งพุทธกาล) ๑๐ อันดับ " โดย กบจ้อย เผยแพร่ในเว็บไซต์
บทความเรื่อง"พุทธธรรมในยุคโลกาภิวัตน์" โดย เสกสรรค์ ประเสริฐกุล เผยแพร่ในเว็บไซต์
|
วันอังคารที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2562
โลกพระพุทธศาสนาในยุคโลกาภิวัฒน์
วันจันทร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2562
ประวัติส่วนตัว
นาย กิตติทัต แก้วมณี ชื่อเล่น เอ็มม่า
รหัสนิสิต 601011228
คณะมนุยษศาสตร์และสังคมศาสตร์
มหาวิทยาลัยทักษิณ
อ้างอิง
รหัสนิสิต 601011228
คณะมนุยษศาสตร์และสังคมศาสตร์
มหาวิทยาลัยทักษิณ
อ้างอิง
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)


